จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

Tequila

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ Tequila

Tequila เป็นเครืองดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตในแถบพื้นที่ราบสูงที่แห้งแล้งตอนกลางของ ประเทศ Mexico โดยใช้รากสะสมอาหารของต้น agave (หรือชื่อหนึ่งคือ maguey) เป็นวัตถุดิบในการหมักและกลั่น จากประวัติศาสตร์นั้นพบว่า Tequila ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 16 ในพื้นที่บริเวณใกล้กับที่ปลูกต้น agave ซึ่งถูกยกเป็นเมือง “city of Tequila” อย่างเป็นทางการในปี คศ. 1656
โดยความจริง agave ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการหมักเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮลล์ที่เรียกว่า octli (ต่อมาเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในชื่อของ pulque ซึ่งคือ Tequila wine นั่นเอง) โดยชาว Aztec ก่อนที่ชาว Spanish ได้เข้ามารุกรานในปีคศ. 1521 แล้วนำเอา pulque มากลั่นเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงเป็นจุดกำเนิดของ tequila หรือเครื่องดื่มแอลกฮอล์กลั่นพื้นเมืองของ Mexico ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในปัจจุบัน tequila เกือบทั้งหมดถูกผลิตที่เมือง Jalisco state around the town of Tequila
ขั้นตอนการผลิต Tequila สามารถแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอนใหญ่ด้วยกันได้แก่
1. การเก็บเกี่ยว agave
2. การให้ความร้อนแก่ piña
3. การหมัก
4. การกลั่น
5. การบ่มและการผสม
ซึ่งแต่ละขั้นตอนจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. การเก็บเกี่ยว agave
agave ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต tequila นั้นเป็น agave สายพันธุ์ Agave tequilana หรือที่เรียกกันว่า blue agave หรือ agave azul ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองของ Mexico ซึ่งต้องทำการปลูกอย่างน้อย 8 – 12 ปี จึงจะสามารถเก็บเกี่ยวมาใช้เป็นวัตถุดิบในการหมักได้ ก่อนที่จะถึงระยะเวลาที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ jimador จะตัดแกนกลางออกเพื่อเร่งให้เกิดการสะสมอาหารและการพองออกของรากทำให้ได้ผล ที่มีรูปร่างคล้ายสัปปะรดเรียกว่า piña และเมื่อครบกำหนดที่สามารถจะนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการหมักได้ jimador หรือ harvester จะทำการขุดและตัดใบโดยรอบออก โดยใช้เครื่องมือที่มีความคมและมีด้ามยาวเรียกว่า coa
2. การให้ความร้อนแก่ piña
piña จะถูกทำให้สุกอย่างช้าๆโดยใช้ slow-bake ovens หรือไอน้ำร้อน (autoclave) กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 30-72 ชั่วโมง traditional stone หรือ brick oven มีชื่อเรียกว่า horno ซึ่งเป็นชื่อที่ได้มาจาก Sauza's Hornitos. การอบด้วยความร้อนอย่างช้าๆจะทำให้เกิดน้ำหวาน (piña juice) ขึ้นใน piñaอุณหภูมิ ที่ใช้จะประมาณ 140-185 oF. ซึ่งกระบวนการให้ความร้อนช้าๆทำให้ Fiber ใน piña นิ่มทำให้ได้ piña juice ปริมาณมากและหลีกเลี่ยงการเกิดปฏิกิริยา caramelizing ใน piña juice ซึ่งทำให้มี กลิ่นน้ำตาลไหม้ มีสีเข้มและมีรสชาติขมในบางแห่งจะใช้กระบวนการให้ความร้อนโดยใช้ไอน้ำร้อน และความดัน ซึ่งใช้เวลาในการให้ความร้อนสั้นกว่าการใช้เตาอบ (ประมาณ 8-14 ชั่วโมง) ซึ่งหลังจากการให้ความร้อนแล้วจะทิ้งไว้ประมาณ 24-36 ชั่วโมงก่อนจะทำการบด piña เพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการหมักต่อไปpiña จะถูกนำเข้าสู่เครื่องบดขนาดใหญ่ สำหรับในปัจจุบันจะมีเครื่องที่สามารถบดและแยกกากที่เหลือจากการบด (bagazo) ออกเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ต่อไป จากนั้นจะทำการคั้นเพื่อให้ได้น้ำหวานที่อยู่ใน piña ซึ่งเรียกว่า(aquamiel, or honey water) และผสมกับน้ำและน้ำตาลในอัตราส่วนต่างๆแล้วแต่โรงงานเพื่อเข้าสู่กระบวนการ หมักต่อไป
3. การหมัก 
จุลินทรีย์ ที่ใช้ในการหมักได้แก่ ยีสต์ (commercial brewer's yeast) สำหรับโรงงานพื้นเมืองขนาดเล็กจะใช้ยีสต์จากธรรมชาติ (สามารถพบตามใบของ agave) เช่น Tequila Herradura เป็นโรงงานที่ใช้ยีสต์จากธรรมชาติในการหมักและในบางโรงงานมีการใช้ยา ปฏิชีวนะในการป้องกันการปนเปื้อนของแบคทีเรีย กระบวนการหมักทำในถังไม้หรือถังสเตนเลส ซึ่งถ้าปล่อยให้เกิดการหมักตามธรรมชาติจะใช้เวลาประมาณ 7-12 วัน แต่ในโรงงานบางแห่งสามารเร่งการเจริญของยีสต์ และทำการหมักให้เสร็จสิ้นภายในเวลาประมาณ 3 วัน และมีกระบวนการนำเชื้อที่ได้ไปใช้เป็นเชื้อเริ่มต้นในการหมักครั้งต่อไป ในบางครั้งจะทำการหมักน้ำหมักพร้อมกับกากที่เหลือจากการคั้นน้ำเพื่อทำให้ ได้กลิ่น-รสชาติของน้ำหมักที่ดีขึ้น หลังจากกระบวนการหมักเสร็จสิ้นลงจะทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมงเพื่อให้เซลล์จุลิทรีย์และ non-fermentable materials ในน้ำหมักตกตะกอนแล้วจึงเข้าสู่กระบวนการกลั่นต่อไป
4. การกลั่น:

Tequila เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่การกลั่น 2 ครั้ง การกลั่นนั้นมีการกลั่นโดยใช้หม้อกลั่นทั้ง 2 แบบ (copper pot still และ stainless steel column still) โดยที่หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการหมักในน้ำหมักนั้นจะมีแอลกอฮอล์ประมาณ 5-7% เวลาที่ใช้ในการกลั่นทั้งหมดประมาณ 4- 8 ชั่วโมงโดยที่ส่วนที่กลั่นได้ครั้งแรกเรียกว่า ordinario ซึ่งมีแอลกอฮอล์ประมาณ 20% หลังจากนั้นทำการกลั่นครั้งที่สองซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงส่วนที่กลั่นได้นั้นแบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกันได้แก่ cabeza หรือ head เป็นส่วนแรกที่ได้จากการกลั่นครั้งที่ 2 ประกอบด้วยแอลกอฮอล์และ aldehydes ซึ่งจะถูกทิ้งไป สำหรับส่วนที่สองเรียกว่า El corazon, หรือ the heart เป็นส่วนที่ดีที่สุดมีแอลกอฮอล์ประมาณ 50 % สำหรับส่วนสุดท้ายเรียกว่า colos หรือ tails บางครั้งจะเก็บไว้ทำเพื่อใช้ในการกลั่นครั้งต่อไป สำหรับส่วนที่เหลือจากการกลั่นเรียกว่า residue หรือ dregs (vinazas) จะทิ้งไปไม่นำมาใช้ต่อ
5. การบ่มและการผสม
การ บ่มและการผสม Tequila นั้นขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการผลิตว่าจะผลิต tequila ชนิดใดซึ่งการบ่มและการผสมสามารถแบ่ง tequila ออกได้ดังนี้

กลุ่มแรก Blanco : คือ tequila ทั่วไปที่สามารถบรรจุขวดเพื่อจำหน่ายได้เลยหรือถ้าจะทำการบ่มจะบ่มไม่เกิน 60 วันเท่านั้น

กลุ่มที่ 2 Joven Abacod: คือ Blanco ที่ปรุงแต่งสีและรสด้วย caramel และไม่ผ่านการบ่ม

กลุ่ม ที่ 3 Reposado: คือ tequila ที่ผ่านการบ่มในถังไม้อย่างน้อยที่สุด 60 วันแต่ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งทำให้มีกลิ่นรสที่ดีจากกระบวนการบ่ม ซึ่งเป็น tequila ที่รัฐบาลเป็นผู้ควบคุมและดำเนินการผลิตเอง

กลุ่มที่ 4 Anejo: คือ tequila ที่ผ่านการบ่มในถังไม้ที่มีขนาดบรรจุไม่มากกว่า 600 ลิตรเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี.
การดื่ม tequila
Tequila สามารถดื่มแบบไม่ผสม (straight) หรือนำมาใช้ผสมเป็นเครื่องดื่ม Cocktail ซึ่งได้แก่ Margarita ที่เป็นที่นิยมและรู้จักแพร่หลายกันทั่วโลกวิธี การดื่ม Tequila แบบไม่ผสม นั้นจะประกอบด้วยแก้วใสขนาด (shot glass) มะนาวฝาน และเกลือ ดังแสดงในรูป วิธีการดื่มคือ เทเกลือบนหลังมือของแขนข้างที่ไม่ได้ถือแก้ว จากนั้นดื่ม tequila ในแก้วให้หมดในครั้งเดียวจากนั้นจึงเลียเกลือที่แขนแล้วจึงกัดมะนาวตาม หรือจะใช้วิธีจิบช้าๆพร้อมกับเกลือและมะนาวก็ได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้การบีบมะนาวลงบนปากแก้วก่อนดื่ม และถ้าสั่ง ‘bandera’ (Spanish for ‘flag’) ในร้านขายเครื่องดื่มหรือบาร์จะได้รับ Tequila ที่มาพร้อมกับมะนาว(lime) และ แก้วที่เป็นน้ำมะเขือเทศผสมกับน้ำส้ม
วิธีดื่มเตกิล่า (Tequila)
1.    ดื่มแบบ ช๊อต” (Shot) คือดื่มเพียวๆ ในแก้วเล็กทรงสูง
2.    ดื่มเพียวๆ เป็นช๊อต ตามด้วยน้ำส้มคั้นที่ปรุงด้วยเครื่องเทศ
3.    ชู ทเตอร์ส (Shooters) คือ เลียเกลือที่ทาไว้ที่มือ แล้วดื่มเตกิล่า ตามด้วยมะนาวสดชิ้นเล็กๆ (ซึ่งวิธีนี้ เป็นวิธีที่นิยมที่สุดในการดื่มเตกิล่า)
4.    นำมาผสมค็อกเทล เช่น
o        มา การิตต้า (Margarita)  ผสมโดยใช้เตกิล่ากับลิเคียว รสส้ม (เช่นแกรนด์มาเนียร์ หรือ ทริปเปอร์ เซ็ค) และ   เติมน้ำมะนาว  เขย่ากับน้ำแข็ง  เสริฟในแก้วค็อกเทล   ที่ทาเกลือไว้ที่ขอบแก้ว 356, 359 แก้วมาการิตต้า
o        สแลมเมอร์ (Slammers) บางทีเรียก ป๊อบ หรือ ป๊อบเปอร์” (Pop, Poper)  โดยการใช้ โฮเซ่ คูวโว่ โกล์ด ½ ช๊อต (แก้วช๊อต) แล้วเติมด้วย เซเว่น อัพ หรือ สไปร์ท ในสัดส่วนที่น้อยกว่า ปิดปากแก้วด้วย ผ้ารองแก้ว หรือ  กระดาษรองแก้ว (หรือที่เราเรียกว่า โคลส์เตอร์-Coaster) ยกเสริฟโดยใช้แก้วกระแทกไปกับโต๊ะ ทำให้เกิดฟองฟู่ขึ้น แล้วดื่มทันที



เทศกาลตรุษจีน

รวมสถานที่ท่องเที่ยวในเทศกาลตรุษจีน
กรุงเทพมหานคร
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
รายละเอียด/กิจกรรม : กำหนดจัดงาน 1 กุมภาพันธ์ 2554 โดยมีกิจกรรมการแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชน จีน เนื่องในโอกาสครบรอบ 36 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - สาธารณรัฐประชาชนจีน การแสดง 2 รอบ เวลา 15.00 น. และ 19.00 น. (จำหน่ายบัตร)
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
รายละเอียด/กิจกรรม : กำหนดจัดงาน 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 13.00 น. โดยมีกิจกรรม พิธีกล่าวคำอวยพรเนื่องในวันตรุษจีน ปี 2554 ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐประชาชนจีน การแสดงวัฒนธรรมจีน จากสาธารณรัฐประชาชนจีน
ถนนเยาวราช
รายละเอียด/กิจกรรม : กำหนดจัดงาน 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 16.00 น. โดยมีกิจกรรม การแสดงหน้าพระที่นั่ง ณ วงเวียนโอเดียน ถนนเยาวราช การแสดงรอบพิเศษในงานเทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์เยาวราช
***************************
นครราชสีมา
ยิ่งใหญ่สุดอลังกาลเทศกาลตรุษจีนโคราช 54 "มหัศจรรย์...เซี่ยงไฮ้"

รายละเอียด/กิจกรรม :
งาน ตรุษจีนโคราช กิจกรรมที่เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างชาวไทยและชาวจีน ครบรอบ 36 ปี ซึ่งถือว่าเป็นงานที่มีความยิ่งใหญ่ภายใต้ความเชื่อที่มีมานาน และเป็นการฉลองวันขึ้นปีใหม่ ของชาวจีน กับงานเทศกาลตรุษจีนโคราช สุดยิ่งใหญ่อลังการ
เทศบาลนครนครราชสีมา โดยการสนับสนุนของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา กำหนดจัดงานตรุษจีนโคราช 54 "มหัศจรรย์...เซี่ยงไฮ้" ขึ้น ในระหว่างวันที่ 3 - 5 กุมภาพันธ์ 2554 ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สวนสุรนารี และสวนอนุสรณ์สถาน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีสุดยอดการแสดงที่น่าสนใจ อาทิ การเนรมิตกลางเมืองโคราชให้เป็นเมืองเซี่ยงไฮ้ ขบวนแห่สิงโตทอง การเชิดสิงโต มังกรไฟ ประกอบแสงสีเสียง โคมไฟยักษ์ ลุ้นรับโชคกับอั่งเปาทองคำและพลาดไม่ได้กับสุดยอดการแสดงศิลปวัฒนธรรมจีนจาก สาธารณรัฐประชาชนจีน(เมืองปักกิ่ง) การแสดงและจำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองโคราช
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครนครราชสีมา โทร. 0 4423 4763 http:// www.koratcity.net หรือที่ ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทร. 0 4421 3666/0 4421 3030 ทุกวันในเวลาราชการ
****************************
นครสวรรค์
ตรุษจีน ปากน้ำโพ
รายละเอียด/กิจกรรม : ท้าพิสูจน์ตำนานสวรรค์ เทศกาลตรุษจีน 27 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2554 แห่กลางคืนวันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ แห่กลางวัน วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2554
*****************************
สุพรรณบุรี
ตรุษจีนสุพรรณบุรี มหัศจรรย์ 3 ปี มังกรสวรรค์
รายละเอียด/กิจกรรม : จังหวัดสุพรรณบุรี จัดงาน "ตรุษจีนสุพรรณบุรี มหัศจรรย์ 3 ปี มังกรสวรรค์" ในระหว่างวันที่ 3 - 7 กุมภาพันธ์ 2554 ณ อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเชิญชวน และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาสักการบูชา กราบไหว้ ขอพรจากเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาชนจีน ครบรอบ 36 ปี ตลอดจนเป็นการส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรีให้เพิ่มมากยิ่ง ขึ้น รายละเอียดในการจัดงาน มีรายละเอียดดังนี้
ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. (วันเริ่มงาน) ชม...การเปิดโคมไฟต้นมะพร้าว การแสดงกลองศึก สิงโต เอ็งกอบู๊ มังกรเก้าเซียน กังฟู เทพธิดาพระจันทร์ มนุษย์ไฟเรืองแสง มังกรสวรรค์อวยชัยให้พรตรุษจีน ศิลปิน ก๊อต จักรพรรณ อาบครบุรี แชมป์ลูกทุ่งชิงช้าสวรรค์ โรงเรียนมัธยมด่านขุนทด
ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป ชมพิธีเปิดงาน มีการแสดงเอ็งกอบู๊ กังฟู สิงโตราชสีห์ การแสดงมังกรเก้าเซียนในรูปแบบใหม่ โดยเป็นการผสมผสานการแสดงแต่ละชุดเข้าด้วยกันให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเรียกการแสดงนี้ว่า "อิทธิฤทธิ์ลูกหลานพันธุ์มังกร" และการแสดงที่พิเศษในการประกอบพิธีเปิดงาน ได้แก่ การแสดงและการร้องเพลงบนพระจันทร์เสี้ยวเรืองแสง การแสดง "ระบำสาวงามเรืองแสง" การแสดง "กลองประกอบแสงเต้นระบำ" การแสดง "คอนเสิร์ต คาราบาวแบบเต็มวง" และการจัดแสดงพลุ ดอกไม้ไฟ ไพโรเทคนิค ชุด "มังกรสวรรค์อวยชัยให้พรตรุษจีน" การแสดงของวงดนตรี และศิลปินรับเชิญ
ในระหว่างวันที่ 4 - 7 กุมภาพันธ์ 2554 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ชมการแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน อาทิเช่น การแสดงชุด "กวนอิมพันมือ" เป็นการแบบต้นฉบับจากกรุงปักกิ่ง การแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้ากาก และเปลี่ยนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย การแสดงกายกรรม การแสดงระบำจีนของสาวงามจากประเทศจีน และการแสดงวงดนตรีของนักร้องลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย และการแสดงดนตรีลูกทุ่งจากรายการชิงช้าสวรรค์
พบกับ ! กิจกรรมพิเศษ หนังสือเดินทางสิริมงคล "ตรุษจีนสุพรรณบุรี มหัศจรรย์ 3 ปี มังกรสวรรค์" โดยจะแจกให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน ให้นำไปประทับตราตามสถานที่สำคัญในบริเวณอุทยานมังกรสวรรค์ จำนวน 8 จุด ดังนี้ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เจดีย์เจ็ดชั้น เจ้าพ่อกวนอู เสามังกร พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร หอระฆัง ศิลาจารึกเต่ามังกร และภาพสลักไม้หอม เมื่อประทับตราครบทุกแห่งแล้ว นำหนังสือเดินทางมาแลกรับของที่ระลึก ณ "เมืองเก่าลี่เจียง" ....เมืองมรดกโลก สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะอยู่บริเวณจุดแสดงงาน "หมู่บ้านมังกรสวรรค์ ตลาดพันปี" ผู้ที่สนใจในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร สามารถสำรองบัตรเข้าชมล่วงหน้า ได้ที่ 035 - 526211- 2 และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี โทร. 035 - 521690
********************************
ภูเก็ต
เทศกาลตรุษจีน - ย้อนอดีตเมืองภูเก็ต

รายละเอียด/กิจกรรม : วัน ที่ 8 ก.พ. 2554 - 10 ก.พ. 2554 ร่วมสัมผัสวิถีชีวิตย้อนอดีตคนภูเก็ต ประเพณีไหว้เทวดา (วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554) ร่วมแต่งกายพื้นเมืองภูเก็ต ชมการแสดงจากเมืองสุ้ยหนิง มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน และร่วมสักการะตราประทับเจ้าแม่กวนอิม จากเมืองสุ้ยหนิง พร้อมพิธีลงนาม (MOU) เมืองพี่เมืองน้องระหว่างเมืองสุ้ยหนิง - ภูเก็ต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานภูเก็ต โทร. 076-211036, 076-212213
********************************
อยุธยา
"ตรุษจีนกรุงเก่าอยุธยามหามงคล" ครั้งที่ 5 ประจำปี 2554
รายละเอียด/กิจกรรม : วันที่ 4 ก.พ. 2554 - 8 ก.พ. 2554 เมืองกรุงเก่าอยุธยาจัดกิจกรรม "ตรุษจีนกรุงเก่าอยุธยามหามงคล" ครั้งที่ 5 ประจำปี 2554 โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้ ไหว้เจ้าจากศาลเจ้าทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิธีเปิดงานและชมขบวนแห่เจ้าเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา การประกวดรถขบวนแห่เอกลักษณ์จีน การประกวดโคมไฟจีน (เต็งลั้ง) การประกวดหนูน้อยไชน่าทาวน์ และมิสไชนีส การประกวดแต่งกายจีน การแสดงทางวัฒนธรรมจากเขตปกครองตนเองซินเกียง สาธารณรัฐประชาชนจีน การแสดงมังกรทอง - สิงโต และการแสดงอุปรากรจีน ชมการประดับโคมไฟจีนตลอดการจัดงาน ชมและชิมการออกร้านอาหาร และเลือกซื้อสินค้า OTOP ราคาถูก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ สมาคมวัฒนธรรมไทยจีนกรุงเก่า (ศาลเจ้าพ่อจุ้ย) โทร. 035-244451
**********************************
ราชบุรี
ราชบุรีไชน่าทาวน์ 2011

รายละเอียด/กิจกรรม : วันที่ 2 ก.พ. 2554 - 6 ก.พ. 2554 จังหวัดราชบุรีจัดงาน "ราชบุรีไชน่าทาวน์ 2011" โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจดังนี้ ชมขบวนแห่ราชบุรีไชน่าทาวน์ การแสดงม่านน้ำ และพลุดอกไม้ไฟ ชมการแสดงแสงสีเสียง ชุด ราชบุรี...มหานทีปฐพีก้องเกริกไกร ชมการแสดงจากเขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน การประกวดมิสเตอร์/ มิสไชน่าทาวน์, และการประกวดตี๋น้อย/ หมวยน้อยไชน่าทาวน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลเมืองราชบุรี โทร. 032-337688
ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทร. 032-471005 - 6
*********************************

การขนส่งสินค้าทางอากาศในจีน

             จีนต้องการพัฒนาศักยภาพทางการบินเพื่อขนสินค้าออกเข้าทางอากาศให้เพิ่มจากปีละ 570,000 ตัน เพิ่มเป็น 1 ล้านตัน ให้สามารถขนส่งผู้โดยสารเพิ่มจาก 29.3 ล้านคนในปีนี้ (พ.ศ.2553) เพิ่มเป็น 43 ล้านคน ในอีก 5 ปีข้างหน้า ในแผนพัฒนาชาติฉบับที่ 10 ภายในเวลา 5 ปีข้างหน้า จีนจะส่งดาวเทียมเพื่อการสื่อสารขึ้นไปโคจรอีก 35 ดวง
ธุรกิจสายการบินของประเทศจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีสายการบินขนาดใหญ่ 3 สายการบินแข่งขันอย่างรุนแรงกับสายการบินต่างประเทศและสายการบินต้นทุนตํ่าที่เข้าไปแย่งตลาด ปัจจุบันจีนเป็นตลาดขนส่งทางอากาศที่เติบโตรวดเร็วมาก ในปี 2549 มีผู้โดยสารใช้บริการทางการบิน 160 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขปี 2548 ที่มีปริมาณ 138.3 ล้านคน เดิมภายหลังจากพรรคคอมมิวนิสต์สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อเดือนตุลาคม 2492 ประเทศจีนมีเพียงสายการบินเดียวที่ผูกขาดการดำเนินการโดยหน่วยงาน CAAC
บริการขนส่งทางอากาศในประเทศจีนช่วงนั้นจำกัดมาก ธุรกิจการบินในจีนเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เติ้งเสี่ยวผิงประกาศนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเมื่อปี 2521 ทำให้ธุรกิจสายการบินเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปี 2531 รัฐบาลแยกธุรกิจการบินของหน่วยงาน CAAC ออกเป็นสายการบินอิสระ 6 สายการบิน ได้แก่ Air China China Eastern Airlines China Southern Airlines China Northwest Airlines China Northern Airlines และ China Southwest Airlines
ต่อมารัฐบาลจีนยกเลิกการผูกขาดธุรกิจสายการบินโดยเปิดให้ก่อตั้งสายการบินใหม่ ทำให้มีผู้ได้รับอนุญาตจำนวนมากทั้งในส่วนที่เป็นรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่รุนแรงทำให้หลายสายการบินประสบปัญหาทางการเงิน คณะรัฐมนตรีของจีนได้มีมติเมื่อต้นปี 2545 เห็นชอบปรับโครงสร้างสายการบินของรัฐบาลกลางจำนวน 9 สายการบิน โดยกำหนดให้ควบกิจการเข้าด้วยกันเพื่อเป็น 3 สายการบิน ขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ ดังนี้
-ควบรวมสายการบิน China Southwest Airlines และสายการบิน China National
Aviation Corp เข้ากับสายการบิน Air China
-ควบรวมสายการบิน Northwest Airlines และสายการบิน Yunnan Airlines เข้ากับสายการบิน China Eastern
-ควบรวมสายการบิน China Northern และสายการบิน Xinjiang Airlines เข้ากับสายการบิน China Southern

 สำนักข่าว เอเอฟพี(AFP) รายงานว่า
สายการบิน Eastern Airlines ของจีนประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (8 กุมภาพันธ์2553) ว่าได้ควบรวมบริษัทเข้ากับสายการบิน Shanghai Airlines เรียบร้อยแล้ว นับเป็นการควบรวมบริษัทครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัทเอกชนในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมการบินจีน คิดเป็นมูลค่า 8,900 ล้านหยวน โดย Shanghai Airlines จะใช้ชื่อบริษัทเดิมหลังจากการควบกิจการ แต่การบริการและทรัพยากรของบริษัทจะถูกเปลี่ยนใหม่ Liu Jiangbo ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Eastern Airlines Corporation กล่าวว่า ได้วางแผนจะพัฒนาการบริการ ระบบงานและเปิดตัวแบรนด์ที่จะให้บริการที่สะดวกและผลิตภัณฑ์คุณภาพสำหรับลูกค้า หลังการควบรวมบริษัท Eastern Airlines จะเป็นเจ้าของเครื่องบินโดยสารมากกว่า 330 ลำ และจะขยายเที่ยวบินออกไปอีก 151 จุด นอกจากนี้ Eastern Airlines จะเป็นเจ้าของทุนมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านหยวน
หลังควบรวมกิจการทำให้สายการบิน Air China ประสบผลสำเร็จทางธุรกิจอย่างมาก ในปี 2549 มีกำไรถึง 3,200 ล้านหยวน หรือประมาณ 16,000 ล้านบาท และสายการบินของรัฐบาลกลางจีนทั้ง 3 สายการบินก็กลายเป็นสายการบินขนาดใหญ่โดยมีส่วนแบ่งตลาดรวมกัน 80% ของการขนส่งทางอากาศภายในประเทศ
สายการบิน Air China เป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของจีน มีฐานอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ในปี 2549 ขนส่งผู้โดยสารมากถึง 31.5 ล้านคน มีรายได้ 47,000 ล้านหยวน (235,000 ล้านบาท )และมีกำไรมากถึง 3,200 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 16,000 ล้านบาท เดิม Air China มีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท China National Aviation Holding Company จำกัด ถือหุ้น 69% และสายการบินคาเธย์แปซิฟิคของฮ่องกง ถือหุ้น 10% แต่กลางปี 2549 มีการประกาศเป็นพันธมิตรกับสายการบินคาเธย์แปซิฟิค โดยสายการบิน Air China จะเข้าไปถือหุ้น 17.5% ในสายการบินคาเธย์แปซิฟิค ส่วนสายการบินคาเธย์แปซิฟิคได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในสายการบิน Air China จากเดิม 17.5% เพิ่มขึ้นเป็น 20%
ส่วนสายการบิน China Southern ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของจีน หากวัดตามจำนวนเครื่องบินซึ่งมีมากถึง 309 ลำ ก็ประสบผลสำเร็จทางธุรกิจเช่นเดียวกัน ในปี 2549 ขนส่งผู้โดยสาร 49.2 ล้านคน มีรายได้ 46,000 ล้านหยวน ( 230,000 ล้านบาท) จากเดิมในปี 2548 ขาดทุน 1,850 ล้านหยวน (9,250 ล้านบาท)ปี 2549 กำไร 188 ล้านหยวน(940 ล้านบาท) สายการบินแห่งนี้มีฐานอยู่ที่นครกวางโจวในมณฑลกวางตง ปัจจุบันกำลังขยายฐานจากกวางโจวไปยังปักกิ่งเพื่อแสวงหารายได้เพิ่ม และกำลังสร้างเครือข่ายในระดับโลก โดยกำหนดเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม Sky Team Alliance ซึ่งมีสายการบินแอร์ฟรานซ์ เดลต้าแอร์ไลน์และโคเรียนแอร์ไลน์เป็นแกนนำ ตั้งแต่ปลายปี 2550 เป็นต้นไป

สายการบิน China Eastern ซึ่งมีฐานอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้กลับประสบปัญหาขาดทุนในปี 2548 เป็นเงิน 467 ล้านหยวน ( 4,335 ล้านบาท) ในปี 2549 ยังมีผลประกอบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 ขาดทุนมากถึง 970 ล้านหยวน ( 4,850 ล้านบาท) และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้นสูงถึง 10/1
สายการบิน China Eastern พยายามขายหุ้น 20% ให้สายการบินต่างประเทศเพื่อกอบกู้สถานการณ์ และมีข่าวว่าสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์สนใจจะเข้ามาถือหุ้น
สายการบิน China Eastern ยังไม่ได้เข้ากลุ่มพันธมิตร แต่มีข่าวว่ากำลังเจรจาเข้าร่วมกลุ่ม One world Alliance ซึ่งประกอบด้วยสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ สายการบินบริติชแอร์เวย์ สายการบินคาร์เธย์แปซิฟิค และสายการบินแจแปนแอร์ไลน์เป็นแกนนำ ขณะเดียวกันสายการบินของจีนได้ปรับปรุงการซ่อมบำรุงเครื่องบินดีขึ้นมาก พร้อมกับปรับเปลี่ยนจากเครื่องบินรัสเซียมาเป็นเครื่องบินโบอิ้งและแอร์บัส ข้อมูลของบริษัทโบอิ้งในช่วงทศวรรษที่ 1980 สายการบินจีนมีแนวโน้มจะเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกมากเป็น 5 เท่าของสายการบินสหรัฐฯ แต่ปัจจุบันได้ปรับปรุงไปอยู่ในระดับความปลอดภัยไม่แตกต่างกัน
การที่ธุรกิจสายการบินของจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการบุคลากรเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ปัจจุบันประเทศจีนมีมหาวิทยาลัยการบินพลเรือนนับเป็นสถานศึกษาที่ผลิตนักบินใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีวิทยาเขตจำนวน 4 แห่ง มีสนามบิน 5 แห่ง และมีเครื่องบินสำหรับฝึกหัดนักบินเป็นจำนวนมากกว่า 100 เครื่อง โดยในปีการศึกษา 2549 มีผู้สำหรับการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ในหลักสูตรนักบินเป็นจำนวนมากถึง 800 คน